พิพิธภัณฑ์มาดามทุซโซ สาขา วอชิงตัน ดีซี ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ที่เข้าเที่ยวพิพิธภัณฑ์ โดยการเติมเทคโนโลยี AR โดยใช้เป็นลักษณะแว่นตา ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์แรกของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้นำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ร่วมกับแว่นตาสมาร์ทกลาส และเชิญชวนให้ผู้ที่เข้าชมได้รับความมหัศจรรย์นี้ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และเหตุการสำคัญ ๆ ไปกับคนดังมากมายภายในพิพิธภัณฑ์
ทุกวันนี้ที่พิพิธภัณธ์มาดามทุซโซ ดีซี ได้เชื่อมโยงผู้เข้าชมกับอดีตที่สำคัญ และไอคอนระดับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมป๊อป และอีกมากมายที่สำคัญ ๆ ของโลก โดยทางผู้จัดการทั่วไปของมาทามทุซโซได้กล่าวว่า “การทำแว่นตาสมาร์ทกลาสเข้ามาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AR สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชม และพวกเขาเหล่านั้นได้รู้สึกร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่สำคัญเหล่านั้น”
ผู้คนที่เข้ามาเที่ยวพิพิธภัณฑ์มาดามทุซโซ จะได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากที่อื่น เพราะว่ามีหลายพิพิธภัณฑ์ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ร่วมกับเทคโนโลยี AR โดยการถือสมาร์ทโฟนไปส่องที่จุดต่าง ๆ แต่ที่มาดามทุซโซ ของเราเพียงสวมแว่น และเดินในพิพิธภัณฑ์ได้เลย ซึ่งให้ความแตกต่างได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องถืออะไรให้วุ่นวาย
ประสบการณ์ AR ที่ไม่เหมือนใครนี้จะนำพาผู้เข้าชมเข้าสู่ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของสหรัฐอเมริกา และยังให้ผู้เข้าชมสามารถที่จะสวมใส่เสื้อผ้าในยุคต่าง ๆ ไปจนถึงชุดอวกาศ หวนคืนวันทีมนุษย์ก้าวสู่ดวงจันทร์ และยังได้ฟังสิ่งที่ ดร.มาร์ตินลูเธอร์คิงจูเนียร์กล่าวเป็นประโยคประวัติศาสตร์ว่า “ฉันฝัน” ได้เป็นต้น
บริษัท ARtGlass ที่เป็นผู้บุกเบิกการนำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้กับแว่นตาสมาร์ทกลาสที่พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพื่อยกระดับการรับรู้ไปอีกระดับหนึ่ง โดยการใช้ภาพ เสียง เอฟเฟก ภาพ 3 มิติ วีดีโอ 360 องศา และโฮโลแกรม
พิพิธภัณฑ์,มาดามทุซโซ,เทคโนโลยี AR,เออาร์,AR Code,สมาร์ทกลาส,แว่นตาเออาร์,AR Glass