3D PROJECTION MAPPING - NESCAFÉ Espresso Roast Club

7 – 30 กรกฎาคมนี้ ชวนคุณมาสัมผัสความเข้มของกาแฟเอสเปรสโซ สูตรที่ดีที่สุดจากเนสกาแฟ พร้อมเปิดโสตสัมผัสมากกว่าที่เคย กับครั้งแรกของ Vertical Immersive Experience ในงาน NESCAFÉ Espresso Roast Club
เปิดประสบการณ์กาแฟครบถ้วน ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกสรรวัตถุดิบ, คั่วเมล็ดกาแฟ ไปจนถึงการชง จนได้ออกมาเป็น เนสกาแฟ เอสเปรสโซ โรสต์ สูตรใหม่ ที่อร่อยถูกใจคนไทยว่าที่เคย ผ่าน Experience
.
ตื่นเต้นตื่นใจเส้นทางการรังสรรค์กาแฟเอสเปรสโซที่ดีที่สุดผ่านเทคโนโลยี Mapping แบบอินเตอร์แอคทีฟสุดล้ำในห้องมืด กับทุกๆ ขั้นตอนที่ดีที่สุด ตั้งแต่วินาทีที่เก็บเกี่ยว การคั่ว และการคิดค้นสูตรใหม่ เพื่อรังสรรค์กาแฟเอสเปรสโซในซองที่ดีที่สุดของเนสกาแฟ
.
สถานที่: NESCAFÉ Espresso Roast Club ถนนเยาวราช
.
รอบและเวลาทำการ :
จันทร์-ศุกร์ 10.00 น. – 20.00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 8.00 น. – 20.00 น.
.
ติดต่อสนใจงาน หรือสอบถามข้อมูล
สำหรับผลงานทั้งหมด – www.illusion.in.th
สำหรับ AR Code – www.myrecall.app
illusion.thai@gmail.com
โทร 0637896694 (คุณโจ)
Line : MESISE

3D MAPPING S-PURE ในงาน “ถ้าวิถีธรรมชาติ คือทางของคุณ S-Pure No.1 Brand” . “S-Pure” สร้างปรากฏการณ์!!! เปิดตัวแคมเปญการตลาด “ถ้าวิถีธรรมชาติ คือทางของคุณ S-Pure No.1 Brand” ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมี่ยม สร้างการรับรู้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม ผ่าน 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่ . 1. จุดยืนใหม่ของ S-Pure “Healthy Lifestyle Inspiration” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ด้วย S-Pure ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% แบรนด์แรกและหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับการรับรองการเลี้ยงที่ไม่มียาปฏิชีวนะ (RWA) จาก NSF สหรัฐอเมริกา ครบทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ . 2. ดีไซน์บรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ สะท้อนการเป็นผลิตภัณฑ์ทันสมัย ธรรมชาติ สดใหม่ ปลอดภัย 3. S-Pure เป็นแบรนด์แรกของไทยที่นำบรรจุภัณฑ์ถาดกระดาษ (Paper Tray) มาใช้กับกลุ่มสินค้าอาหารสด ลดการใช้พลาสติกได้ถึง 80% . 4. สินค้าใหม่ “S-Pure Prime” เนื้อสัตว์แปรรูปสไตล์โฮมเมด ที่ผลิตจาก S-Pure 100% ไม่แต่งเติมด้วยสารเคมี สารปรุงแต่ง สารกันบูด ผงชูรส และวัตถุเจือปนอาหารใดๆ ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับ “อาหารฉลากสะอาด (Clean Label)” รายแรกของไทย . 5. เปิดตัวแคมเปญใหม่ S-Pure ด้วยภาพยนตร์โฆษณา “ถ้าวิถีธรรมชาติคือทางของคุณ S-Pure No.1 Brand” ภายใต้ช่องทางการสื่อสารแบบครบวงจร . #ถ้าวิถีธรรมชาติคือทางของคุณ #SPure #แบรนด์แรกและหนึ่งเดียวที่ได้รับรองการเลี้ยงแบบไม่ใช้ยาปฏิชีวนะจากNSF

ติดต่อสนใจงาน หรือสอบถามข้อมูล สำหรับผลงานทั้งหมด – www.illusion.in.th

สำหรับ AR Code – www.myrecall.app

illusion.thai@gmail.com

โทร 0637896694 (คุณโจ)

Line : MESISE

บริการ Projection 3D Mapping หรือการสร้างภาพสะท้อนสามมิติบนพื้นผิวต่างๆ โดยใช้โปรเจคเตอร์ เป็นบริการที่ใช้ความสามารถในการสร้างประสบการณ์พิเศษ ที่ทันสมัยและน่าตื่นเต้นให้กับผู้ชม โดยการใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพที่สะท้อนบนพื้นผิวต่างๆ ให้มีลักษณะสามมิติ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบและเนื้อหาได้ตามต้องการของลูกค้า

บริการ Projection 3D Mapping นำเอาความสามารถของโปรเจคเตอร์ในการฉายภาพสู่พื้นผิวต่างๆ อย่างเช่น ตึกสูง, ผนังสถาปัตยกรรม, สิ่งก่อสร้าง, หรือวัตถุที่มีพื้นผิวเป็นรูปทรงเฉพาะ โดยทำให้พื้นผิวดังกล่าวดูเป็นแบบสามมิติ และสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับรูปทรงของพื้นผิวนั้นได้

Projection 3D Mapping สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าทึ่งและน่าประทับใจให้กับลูกค้า โดยการใช้งานภาพสะท้อนสามมิติในการสร้างฉากหรือการแสดงที่มีการเคลื่อนไหว การใช้สีสันและเอฟเฟกต์พิเศษ ที่สามารถจับความสนใจของผู้ชมได้อย่างมาก

Projection 3D Mapping ใช้งานได้ในหลากหลายประเภทของกิจกรรมและงานอีเวนต์ เช่น งานแสดงสินค้า, งานแสดงนิทรรศการ, งานประกวด, งานสัมมนา, งานแสดงดนตรีและคอนเสิร์ต, งานเฉลิมฉลอง, งานสังสรรค์และงานเฉลิมฉลองต่างๆ โดยมุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและให้ความประทับใจให้กับผู้ชมที่มาเข้าร่วมกิจกรรมหรืองานอีเวนต์

Projection 3D Mapping เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตของสถานที่โบราณหรือโบราณสถานเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีความสามารถในการนำเสนอเนื้อหาที่สร้างสรรค์และสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม โดยใช้ภาพสะท้อนสามมิติบนพื้นผิวของอาคารหรือโครงสร้างโบราณ ตัวอย่างของการใช้ Projection 3D Mapping เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตของสถานที่โบราณได้แก่:

  1. การสร้างภาพบรรยากาศ: ผ่าน Projection 3D Mapping สามารถสร้างภาพบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับสถานที่โบราณได้อย่างคล้ายคลึงกับสภาพการใช้ชีวิตในอดีต ยกตัวอย่างเช่นการสร้างภาพของชุมชนโบราณที่กำลังดำเนินกิจกรรมประจำวัน หรือการแสดงภาพของพื้นที่ในยุคที่สถานที่โบราณมีความสำคัญ ซึ่งช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าใจและนำความรู้ไปสู่ประสบการณ์ที่สมจริงมากขึ้น

  2. การนำเสนอประวัติศาสตร์: Projection 3D Mapping สามารถใช้ในการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสถานที่โบราณ การใช้ภาพสะท้อนบนผนังหรือพื้นผิวของอาคารเพื่อแสดงเหตุการณ์ที่สำคัญหรือเคาะประตูในอดีตสำคัญ ทำให้ผู้ชมได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความสำคัญของสถานที่นั้นๆ

  3. การเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรม: ผ่าน Projection 3D Mapping สามารถเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับสถานที่โบราณได้อย่างน่าสนใจ สามารถนำเสนอประเพณีท้องถิ่น การแสดงนันทนาการที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ หรือการนำเสนอศิลปะแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่โบราณ เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่เข้าใจและเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น

การใช้ Projection 3D Mapping เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตของสถานที่โบราณเป็นวิธีที่น่าสนใจและมีความสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีความเป็นมากกับผู้ชมและช่วยให้สถานที่โบราณนั้นมีชีวิตอีกครั้งในสมัยปัจจุบัน

คำอธิบาย: AR Painting เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Augmented Reality) เพื่อช่วยพัฒนาทักษะด้านศิลปะ โดยผู้ใช้สามารถใช้แอปพลิเคชันนี้ในการระบายสีหรือสร้างภาพศิลปะในโลกเสมือน ซึ่งสามารถแสดงผลในพื้นที่จริงเพื่อให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นผลงานของตนเองอย่างสมจริง

คุณสมบัติหลัก:

เทคโนโลยีเสมือนจริง: AR Painting ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อนำภาพศิลปะมาแสดงผลในโลกเสมือน ผู้ใช้สามารถมองเห็นผลงานศิลปะของตนเองในสภาพแวดล้อมจริง ทำให้สามารถปรับแต่งและพัฒนาผลงานได้อย่างมีความสมจริงและเพิ่มประสบการณ์ในการสร้างศิลปะ
เครื่องมือแก้ไขและปรับแต่ง: แอปพลิเคชันนี้มีเครื่องมือแก้ไขที่หลากหลายที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขและปรับแต่งผลงานศิลปะได้ตามต้องการ อาทิเช่น เลือกสีที่ต้องการ ปรับขนาดของปากกา ปรับความโปร่งแสง เป็นต้น
การบันทึกและแชร์ผลงาน: ผู้ใช้สามารถบันทึกผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นได้ และมีตัวเลือกในการแชร์ผลงานกับผู้อื่น
สามารถใช้ในการถ่ายรูปและวีดีโอเพื่อบันทึกและแชร์ผลงานไปยังโซเชียลมีเดียได้เช่นกัน ผู้ใช้สามารถใช้กล้องของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่อถ่ายภาพหรือวีดีโอของผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นในโลกเสมือนจริงได้ จากนั้นคุณสามารถบันทึกผลงานนั้นและแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่คุณต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานศิลปะของคุณ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

AR Painting มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มุ่งเน้น ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และความเชื่อถือของผู้ใช้งาน ดังนั้นเราไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกหรือข้อมูลใดๆ เพื่อใช้ในการติดตามหรือจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของเรา

เมื่อผู้ใช้งานใช้แอปพลิเคชัน AR Painting ในการสร้างผลงานศิลปะ รูปภาพและวีดีโอที่สร้างขึ้นจะถูกเก็บบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเท่านั้น การบันทึกและการแชร์ผลงานศิลปะเป็นเรื่องของความตัดสินของผู้ใช้งานเอง แอปพลิเคชันไม่ได้เข้าถึงหรือจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว

เรายึดถือหลักการความเป็นส่วนตัวและความเชื่อถือในการดูแลข้อมูลของผู้ใช้งาน และจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลในทุกกรณี

 

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชัน CAN DO

  1. แอปพลิเคชัน CAN DO ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่เป็นนักเรียนสามารถเรียนรู้การเขียน CODE แบบง่ายๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในอนาคต
  2. ข้อมูลชื่อตัวละคร ระบบจะบันทึกเก็บเอาไว้ในสมาร์ทโฟนของผู้เล่นเท่านั้น ไม่มีการส่งออกข้อมูลของผู้เล่น ไปยังเซิฟเวอร์แต่อย่างใด เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้เล่น
  3. การตกแต่งตัวละครจะไม่มีการเก็บสถิติใดๆ เป็นเพียงการเก็บบันทึกลงในสมาร์ทโฟนของผู้เล่นเท่านั้น
  4. กิจกรรมต่างๆ และเวลาในการเล่นจะบันทึกลงในสมาร์ทโฟนของผู้เล่นเท่านั้น
  5. ภาระกิจต่างๆ ในแอปพลิเคชัน ที่ผู้เล่นได้เล่นไป จะเป็นการบันทึกลงในสมาร์ทโฟนของผู้เล่นเท่านั้น
  6. แอปพลิเคชันนี้ไม่มีโฆษณา หรือภาพที่มีความไวต่อแสง เพื่อให้ผู้เล่นมีความปลอดภัยในการใช้งาน
  7. แอปพลิเคชันนี้ ควรเล่นกับผู้ปกครอง และมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ

หลักการและเหตุผล แอปพลิเคชันส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการคิดอย่างมีขั้นตอน Coding and Programming learning skill

เด็กในปัจจุบันนี้เติบโตขึ้นมาในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงมากยิ่งกว่าที่ผ่านมา วิทยาการเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตอย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการแพทย์ ควอนต้มคอมพิวเตอร์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสะดวกสบายมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมมากที่สุดคือ การสื่อสาร การใช้จ่าย การทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ฯลฯ

ผลจากการเปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งนี้ ส่งผลกระทบให้หลายองค์กรต้องเกิดการแข่งขันกันที่สูงมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต ดังนั้นการทำงานในปัจจุบันและอนาคตจึงต้องการทักษะของแรงงานผู้ที่มีความสามารถในการทำงานที่จัดการข้อมูลซับซ้อน การแก้ไขปัญหา และประยุกต์ใช้ความรู้ด้านการคิดอย่างมีขั้นตอน หรือการคำนวณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า การทำงานในหลายอาชีพล้วนแล้วต้องมีการใช้เทคโนโลยีทั้งสิ้น จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การเรียนรู้ทักษะด้านภาษาคอมพิวเตอร์จึงมีความสำคัญยิ่ง ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หรือเฉพาะแต่ผู้ที่มีความสนใจแต่ในด้านเทคโนโลยีเท่านั้น

จากผลการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้หลายประเทศได้เริ่มส่งเสริมให้มีการศึกษาด้านทักษะการคำนวณมากขึ้น สำหรับการศึกษาของประเทศไทย พ.ศ. 25461 ได้เริ่มมีการส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนพื้นฐานการเรียนรู้และพัฒนาการคิดอย่างมีขั้นตอน คือวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปคือ โค้ดดิ้ง (Coding) โดยการนำของดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ

Coding คือ ส่วนหนึ่งของหลักสูตรวิทยาการคำนวณที่บรรจุอยู่ในสาระเทคโนโลยี กลุ่มสาระเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป้าหมายโดยรวมของหลักสูตรวิทยาการคำนวณ มุ่งเน้นให้นักเรียนฝึกคิดอย่างเป็นระบบ ค้นเจอปัญหาและเงื่อนไข รู้เหตุและผล เข้าใจกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญและจำเป็นสำหรับเด็กในศตวรรษใหม่

เมื่อเด็กไทยได้รับการศึกษาให้มีพื้นฐานทักษะด้าน Coding จะเป็นผู้ที่มีทักษะความสามารถด้านดิจิทัล (Digital Competence) คือ สามารถสร้างสรรค์ จัดการแลกเปลี่ยนชุดข้อมูล แก้ปัญาหา เนื่องจากการเรียนรู้ด้าน Coding ช่วยให้ทำงานร่วมกันรับต่อการเปลี่ยนแปลง ทางเทคโนโลยีได้ สามารถแข่งขันได้ เป็นการปูพื้นฐานการปฏิรูปการศึกษาไปถึงเด็กทุกคนโดยไร้ขอบเขตและลดความเหลื่อมล้ำ

“Coding กับการศึกษาพิเศษ เพราะการศึกษาไทย จะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสสามารถเรียนรู้ Coding ได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จะจัดการเรียนการสอน Coding สำหรับครูผู้สอน รวมถึงเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ให้มีทักษะชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้ อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี” ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ

จากแนวคิดของคุณครูกัลยาซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้คณะทำงานโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการคิดอย่างมีขั้นตอน Coding and Programming learning skill มหาวิทยาลัยรังสิต มาพัฒนาเป็นนวัตกรรมสื่อการเรียนรู้เพื่อปูพื้นฐานด้านวิทยาการคำนวณ Coding สำหรับเด็กพิเศษ ให้มีความเพลิดเพลิน มีทักษะเข้าใจวิธีคิดด้วยการฝึกใช้ชุดคำสั่งเบื้องต้น ก่อนที่จะได้รับการศึกษา Coding ในลำดับขั้นต่อไป การศึกษาวิชาที่เกี่ยวกับทักษะไม่ว่าแขนงใด การปูพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากผู้เรียนไม่มีทักษะพื้นฐานที่เข้าใจ จึงยากที่จะสามารถพัฒนาไปต่อได้ แอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการคิดอย่างมีขั้นตอน Coding and Programming learning skill นี้เหมาะสำหรับการสอนให้เด็กพิเศษ หรือเด็กทั่วไปที่กำลังเริ่มทำความรู้จักการเรียนรู้พื้นฐาน Coding

แอปพลิเคชัน Can do ถูกสร้างออกมาเพื่อ ให้น้องๆ สามารถเรียนรู้กระบวนการ การเขียน Code ในรูปแบบเกม “ลากวาง” เพื่อปูพื้นฐานการเรียน Coding แบบง่ายๆ จำนวนภาระกิจมีทั้งหมด 20 ภาระกิจ ให้ผู้เรียนวางแผนให้ตัวละคน วางแผนคำสั่งให้ตัวละคนไปตามช่อง

ที่กำหนดไว้ ด้วยคำสั่งที่มี

การแต่งตัวละคร

  • ผู้ใช้งานสามารถเลือกตัวละครได้ 2 รูปแบบ เป็นตัวละครเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิง
  • สามารถตั้งชื่อตัวละครได้ตามต้องการ ไม่ควรยาวเกิน 10 ตัวอักษร
  • สามารถเปลี่ยนสีเสื้อผ้า กางเกง และรองเท้าได้ โดยมีอย่างละ 5 สี

ภาระกิจ

  • เกมของเรามีทั้งหมด 40 ภาระกิจ ผู้เล่นสามารถที่จะเล่นไปทีละด่าน ไม่สามารถข้ามภาระกิจได้
  • ภาระกิจจะมีความยากขึ้นเป็นระดับ และมีคำสั่งเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการเล่น
  • การเก็บข้อมูลของภาระกิจ จะไม่สามารถโอนถ่าย ข้ามเครื่องได้ จะบันทึกข้อมูลลงในเครื่องนั้นๆ ที่เล่นเท่านั้น

Families policies

ข้อมูลเรื่องความปลอดถัยของข้อมูล

  • แอปพลิเคชัน Can do ไม่มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ใด ๆ แม้ว่าผู้ใช้จะต้องพิมพ์ชื่อตัวละคร แต่เป็นเพียงนามสมมุติเท่านั้น สามารถใช้ชื่ออะไรก็ได้ ตามสมควร
  • การตั้งชื่อของตัวละคร ระบบจะไม่มีการเก็บข้อมูลของผู้เล่นใดๆ ผู้เล่นสามารถใช้นามสมมุติ และเลือกตัวละครที่ต้องการ
  • การตกแต่งตัวละคร ผู้เล่นสามารถเลือกได้ตามใจชอบ เป็นการเปลี่ยนสีเสื้อผ้า, รองเท้า, และอื่นๆ ผู้เล่นสามารถที่จะเปลี่ยน หรือไม่เปลี่ยน
  • การใช้งานแอปพลิเคชันนี้ ผู้เล่น ควรอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง หรือครู เพื่อให้การเรียนรู้ การเรียน เกิดขึ้นภายใต้การคำแนะนำที่ถูกต้อง
  • ข้อมูลใดๆ ที่ผู้เล่นเลือก จะเป็นการเก็บลงในเครื่องสมาร์ทโฟนของผู้เล่นเท่านั้น ไม่มีการส่งข้อมูลออกมา

“คอตโต้” เจาะเทรนด์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในระดับมหภาค ถอดรหัส Design Trend ปี 2022 ต่อยอดความเป็นผู้นำด้าน Smart & Hygiene และ Living Trend เดินหน้าเป็นผู้นำด้าน Trend Setter ผุด 5  เทรนด์ไลฟ์สไตล์ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ “COTTO Virtual Showroom” ครั้งแรกในประเทศไทยกับประสบการณ์การช้อปปิ้งในโชว์รูมเสมือนจริงของสินค้ากลุ่มสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ ที่หยิบยกเทรนด์ไลฟ์สไตล์มาผสานกับ AR Technology บนแพลตฟอร์มออนไลน์ มอบความรู้สึกประหนึ่งได้เดินเลือกสินค้าอยู่ในโชว์รูมจริง ชมสินค้าได้แบบ 3 มิติ สามารถโต้ตอบโดยตรงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งยังมีเทคนิคการจำลองจัดวางสินค้าในพื้นที่จริง ช่วยให้ผู้บริโภคเห็นภาพการดีไซน์ได้ชัดเจนขึ้น เพื่อเติมเต็มพื้นที่แห่งความสุขใน Dream Space ตามแนวคิดของคอตโต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นายอนุวัตร เฉลิมไชย Head of Ceramics Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจีกล่าวว่า  สินค้าคอตโต้ในกลุ่ม Smart Toilet มีการเติบโตตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลนี้เป็นฐานข้อมูลสำคัญที่แสดงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในอนาคต ทั้งการให้ความสำคัญเรื่องความสะอาด การเลือกสินค้าเพื่อตกแต่งบ้านหรือห้องน้ำให้ตอบโจทย์พื้นที่ความสุข หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมการซื้อ และการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ ผู้บริโภคจำนวนมากยอมจ่ายมากขึ้น เพื่อแลกกับความสะดวกและความมั่นใจในการบริการ

“เพื่อส่งเสริมให้ Smart Toilet เป็นครบทั้งสินค้า บริการ และประสบการณ์ใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสร้าง Dream Space เพื่อเติมเต็มพื้นที่แห่งความสุขในแบบที่ทุกคนต้องการ คอตโต้จึงได้ต่อยอดอีกหนึ่งมุมมองเทรนด์ไลฟ์สไตล์นั่นก็คือเรื่องของ Design Trend ซึ่งได้จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์การตกแต่งที่บ่งบอกความเป็นตัวเองของผู้บริโภคในปี 2022 ที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่องานดีไซน์ในอนาคต ซึ่งข้อมูลและเทรนด์ดังกล่าว ทำให้คอตโต้มุ่งพัฒนาช่องทางการเข้าถึงสินค้าที่จะเพิ่มประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งในโลกเสมือนจริง จึงได้ผสาน Design Trend และ AR Technology รวมเข้าไว้ด้วยกันในการสร้าง COTTO Virtual Showroom เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลและประสบการณ์ทั้งด้าน Smart and Style ในที่เดียว ทำให้ลูกค้าสามารถช้อปปิ้ง และค้นหาข้อมูลได้เหมือนไปเดินในโชว์รูมคอตโต้จริง ๆ โดยถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีโชว์รูมห้องน้ำเสมือนจริงให้ชม” นายอนุวัตร กล่าว

นายกิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ชั้นนำภายใต้แบรนด์คอตโต้ กล่าวว่า คอตโต้ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า พร้อมเดินหน้าในการเป็นผู้นำด้าน Smart & Hygiene ด้วยการมอบความปรารถนาดีให้กับผู้บริโภคผ่านคุณค่า 5 ด้าน ได้แก่ ความสะดวกสบาย ความสะอาดปลอดภัย ความคุ้มค่า ความไว้วางใจในบริการ และความสุขสบายใจ รวมทั้งยังใส่ใจและให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเฉพาะในเรื่องความสะดวกสบาย ซึ่งครั้งนี้คอตโต้ตั้งใจส่งมอบให้ผู้บริโภค กับการทำ Virtual Showroom เป็นเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง ที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่ที่สะดวกสบาย เข้าถึงง่าย และสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องสัมผัส โดยจะรวมไอเดียการสร้างสรรค์ห้องน้ำของกลุ่มสินค้า Smart Toilet นำเสนอผ่านฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อาทิ New Product ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าใหม่เป็นที่แรก โดยช่วงแรกจะเปิดตัวด้วยสินค้าโฉมใหม่ของสุขภัณฑ์กลุ่ม Touchless – Waving Sensor ที่เพิ่มความสะดวกสบายด้วยฝารองนั่ง Comfort Seat ที่นั่งสบายมากขึ้น และยังมีดีไซน์ให้เลือกมากขึ้น ส่วนฟีเจอร์ Smart Experience จะนำเสนอข้อมูลด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งวิดีโอเล่าเรื่อง, เทคโนโลยี AR model จำลองการวางสินค้าไปที่หน้างานจริง, ขนาดและมิติของสินค้า, จุดเด่นของสินค้าที่นำเสนอในมุมของคุณค่าที่ผู้ใช้งานจะได้รับ และสามารถกดลงตะกร้าเพื่อเข้าไปดูขั้นตอนการซื้อสินค้าได้ทันที และฟีเจอร์ Seamless Activities ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเป็นกิมมิคสร้างสีสันทุกไตรมาส เปิดตัวด้วยการชวนร่วมสนุกโหวตเทรนด์ห้องน้ำที่ชื่นชอบมากที่สุดจาก 5 ภาพ 5 inspirers เพื่อลุ้นรับ iPhone 13