การเรียนวิทยาศาสตร์ด้วยเทคโนโลยีเสริมความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality, AR) สามารถทำให้เรียนสนุก และน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์ ที่เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและค้นพบโลก ในรูปแบบที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ นี่คือเหตุผลที่ AR เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์
AR ช่วยสร้างโอกาสให้นักเรียนมีโอกาสในการสร้างโมเดล และแก้ไขปัญหาในเกมหรือแบบสำรวจ แบบอินเตอร์แอคทีฟในโลกเสมือน นักเรียนมีโอกาสในการฝึกการทำงานเป็นทีม แก้ไขปัญหาทางวิทยาศาสตร์ และนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้ในการแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อน
การใช้ AR เพื่อเสริมความเป็นจริงให้กับหนังสือ ทำให้การเรียนรู้มีความสนุก นักเรียนสามารถทำการเรียนรู้ ในรูปแบบของเกม และแสดงประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ครูผู้สอนสามารถนำเสนอเนื้อหาในหนังสือร่วมกับ AR ให้กับนักเรียน และให้นักเรียนมีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและเสนอสิ่งใหม่ๆ ทำให้กระบวนการ การเรียนรู้เปลี่ยนเป็นประสบการณ์ที่มีเหตุผลและมีส่วนร่วมของผู้เรียน
หนังสือเรียนเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือในเนื้อหาทางทฤษฎีของวิทยาศาสตร์ แต่ AR ช่วยเสริมความเป็นจริงให้กับข้อมูลในหนังสือ ทำให้นักเรียนสามารถเห็นเนื้อหาทางทฤษฎี และประสบการณ์ที่มีจริงในโลกเสมือน ทำให้การเรียนรู้ มีความหมายและมีความสนุกมากยิ่งขึ้น
การใช้เออาร์ (AR) ควบคู่กับการเรียนโดยใช้หนังสือ เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และมีศักยภาพในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเออาร์เป็นเทคโนโลยีที่อนาคต มีการใช้งานที่แพร่หลายกันขึ้น เป็นการนำเอาภาพจำลอง 3 มิติ และวัตถุจำลอง ที่ถูกสร้างขึ้นในโลกเสมือน มาแสดงในโลกจริง ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แสดงผลบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแว่นตาเสริม (AR glasses) โดยไม่ขัดแย้งกับการมองเห็นโลกและตัวตนของผู้ใช้งาน
การใช้เออาร์ควบคู่ กับการเรียนการสอนนั้นเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนุก ช่วยสร้างภาพจำใหม่ ๆ และเปิดโลกใหม่ให้กับผู้เรียน นอกจากนี้ยังสามารถทำให้กระบวนการเรียนรู้มีความสนุก น่าสนใจ และเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างการใช้เออาร์ควบคู่กับการเรียนการสอน:
การศึกษาแบบมีชีวิต (Living Books): การใช้หนังสือที่มีรูปภาพเคลื่อนไหวและรูปภาพ 3 มิติที่สร้างขึ้นด้วยเออาร์เพื่อช่วยให้เนื้อหาในหนังสือมีชีวิตชีวาขึ้น ทำให้เด็กเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
การศึกษาปฏิสัมพันธ์ (Interactive Learning): ใช้เออาร์เพื่อสร้างกิจกรรมที่ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ เช่น การปรับขนาดและสร้างรูปภาพ 3 มิติของวัตถุต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจหลักสูตรในทางทฤษฎีและสิ่งที่ทำได้ในปฏิบัติ
การสร้างโลกเสมือน (Augmented Reality Worlds): ใช้เออาร์ในการสร้างโลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องราว ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะ ทำให้เกิดประสบการณ์ที่สมจริงและเรียนรู้ในภาพลักษณ์เสมือน
การศึกษาภายในพื้นที่ (Spatial Learning): การใช้เออาร์ในการสร้างโครงสร้างทางกายภาพที่ผู้เรียนสามารถสำรวจและเรียนรู้ภายในของมัน ซึ่งเปิดโอกาสให้เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ
การใช้เออาร์ควบคู่กับการเรียนการสอนนี้เป็นแนวทางที่สามารถเพิ่มคุณภาพ และประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนรู้ และสามารถใช้ได้ทั้งในระดับการศึกษาทั้งหมด ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นในชั้นเรียนปฏิบัติการจนถึงระดับการศึกษาสูงขึ้นในการศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก น่าสนใจ และเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น